Tuesday, July 22, 2014

สาเหตุที่เครื่องซักผ้าเสียงดัง พร้อมวิธีแก้ไข



เครื่องซักผ้า สิ่งอำนวยความสะดวกที่บ้านทุกหลังล้วนมีไว้ใช้ ช่วยประหยัดแรง ประหยัดเวลาในการซักผ้า  ช่วยให้แม่บ้านทุกคนมีเวลาว่างมากขึ้น ถึงเครื่องซักผ้าจะมีประโยชน์มากมายแต่ก็มีบ้าง ที่เครื่องซักผ้าจะนำปัญหามาให้ ในที่นี้เราจะพูดถึงปัญหาเครื่องซักผ้าเสียงดังขณะทำงาน ปัญหาที่หลายๆบ้านคงเคยประสบพบเจอกัน สร้างความรำคาญใจให้กับคนในบ้าน  ซึ่งปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้กับเครื่องซักผ้าทุกรุ่น  อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
-                     เครื่องซักผ้ามีการใช้งานมาอย่างยาวนาน  อาจจะหมดสภาพการใช้งาน
-                     ลูกยางเปื่อย
-                     ลูกปืนแตก
-                     มีเศษวัสดุเข้าไปติดแกนกลางในการหมุนของเครื่องซักผ้า
วิธีแก้ไขเบื้องต้นขจัดปัญหา เครื่องซักผ้าเสียงดัง
-                     เปิดดูเครื่องทางด้านใน เพื่อหาต้นตอของเสียง
-                     ลองหมุนถังแกนปั่นดูว่าเสียงดังตรงไหน
-                     เช็คอุปกรณ์รอบข้างว่า  ชำรุดหรือเปล่า
-                     ใช้สเปรย์อเนกประสงค์ฉีดไปยังระบบเฟื่องทางด้านล่าง
-                     ส่งซ่อมที่ร้าน พร้อมกับเช็คราคาว่าคุ้มกับการซ่อมหรือซื้อใหม่
หากท่านกำลังประสบปัญหาเครื่องซักผ้าเสียงดังลองตรวจเช็คสาเหตุเบื้องต้นและลองแก้ไขด้วยตัวเองดูก่อน เพื่อเป็นการประหยัดเงิน แต่หากหาสาเหตุไม่พบแล้วจริงๆ ก็ควรยกเครื่องไปซ่อมที่ร้าน หรือไม่ก็ซื้อเครื่องใหม่ดีกว่า เพราะเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ๆ ก็มีการใส่ใจเรื่องเสียงขณะซักมากขึ้น เพื่อให้เครื่องซักผ้าทำงานได้อย่างเงียบ ไร้เสียง ไม่รบกวนผู้อยู่อาศัยในบ้าน

Wednesday, July 9, 2014

น้ำแอร์หยดเกิดจากอะไร เป็นเพราะแอร์ห่วยจริงหรือไม่

สารพัดปัญหาเกี่ยวกับการทำงานผิดปกติของแอร์ ที่ผู้ใช้อย่างเราๆ ต้องประสบพบเจออยู่เป็นประจำ ปัญหาน้ำแอร์หยดเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พบได้บ่อย สร้างความรำคาญใจให้กับผู้ใช้แอร์อยู่เป็นประจำ เพราะน้ำก็จะหยดอยู่ตลอดเวลา  ซึ่งสาเหตุก็อาจมีหลายสาเหตุด้วยกัน ต้องตรวจเช็คกันละเอียดสักหน่อย อย่าเพิ่งโทษว่าแอร์ห่วยเลย แต่ถ้าสาเหตุที่พูดมานี้ตรวจเช็คดูแล้วปกติดี ก็คงต้องโทษว่าแอร์ห่วยจริงๆ มาดูสาเหตุของอาการน้ำแอร์หยดกัน

- ท่อน้ำทิ้งหรือถาดน้ำอุดตันไม่สามารถระบายน้ำไปตามท่อได้ จึงเกิดอาการน้ำแอร์หยดขึ้น
- ถาดคอยล์ อุดตันไม่สามารถระบายน้ำได้เช่นกัน
- ถาดน้ำทิ้งอยู่ในสภาพชำรุด น้ำจึงหยดอยู่ตลอดเวลา
- การเดินท่อแอร์ของช่างทำได้ไม่ดี ทำให้มีน้ำรั่ว น้ำหยด อยู่ตลอดเวลา

หากตรวจเช็คทั้งหมดนี้แล้ว สภาพปกติดี หรือท่านไม่มีความรู้เรื่องแอร์สักเท่าไหร่ก็ควรโทรเรียกช่างมาช่วยตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อการแก้ปัญหาที่ตรงจุดว่าแอร์ห่วยหรือเป็นองค์ประกอบในส่วนอื่นๆที่ชำรุดกันแน่ หรือถึงเวลาที่ต้องทำการล้างแอร์ เปลี่ยนน้ำยาแอร์กันบ้าง นี่เป็นเพียงการตรวจเช็คหาสาเหตุของปัญหาน้ำแอร์หยดเท่านั้น ส่วนปัญหาอื่นๆก็ต้องตรวจเช็คสภาพอย่างอื่นกันต่อไป เพราะแอร์เกิดปัญหาขณะใช้งานได้หลากหลายปัญหา สาเหตุและการรักษาจึงแตกต่างกันออกไป แต่หากรักษา ซ่อมแซมเท่าไหร่ก็ยังเกิดปัญหาอื่นๆตามมาอยู่เรื่อยๆแล้ว นี่ละถึงจะเรียกว่าแอร์ห่วยจริงๆ

Wednesday, July 2, 2014

น้ำยาแอร์คุณภาพต่ำ เติมแล้วแอร์ไม่เย็น อย่าเพิ่งโทษแอร์ห่วย

คงจะเถียงไม่ได้ว่าเมืองไทยบ้านเราอากาศร้อนทั้งปี จนแทบจะเรียกได้ว่าเมืองไทยมี 2 ฤดู คือ ร้อนและร้อนมาก ซึ่งส่วนใหญ่แทบทุกบ้านก็จะติดแอร์กันทั้งนั้น พอใช้แอร์ไปสักระยะก็จะมีปัญหาแอร์ตัน ลมไม่ออก หรือแอร์ไม่เย็น เราก็จะเรียกช่างมาล้างแอร์ โดยทั่วไปค่าล้างแอร์ประมาณ 400-500 บาทซึ่งราคานี้ก็ถือว่าถูกมากแล้ว ช่างไม่ค่อยได้อะไรเลย แล้วช่างจำนวนมากที่ขาดจรรยาบันในงานช่างก็มักเพิ่มรายได้ด้วยการหาเรื่องเช็คน้ำยา แล้วเป็นอะไรก็ไม่รู้ น้ำยามันจะขาด ต้องเติมเพิ่มทุกทีไป ค่าเติมก็ปอนด์ละ 15-20-30 บาท
มารู้เท่าทันช่างแอร์กันไว้ด้วยนะครับ บางที่ช่างอาจจะทำให้เราเข้าใจผิดได้ว่าแอร์ห่วย ต้องทำนั่นนี่ ต้องเติมน้ำยาแอร์  คอยสังเกตดูว่าเวลาช่างต่อ เกจ์วัดเข้ากับแอร์ จะมีน้ำยารั่วออกมาทุกครั้ง จะรั่วมาก รั่วน้อยก็แล้วแต่ว่าช่างทำเร็วแค่ไหน ตอนปลดเกจ์วัดออกจากแอร์ก็จะรั่วอีกครั้ง โดนวัดน้ำยาบ่อยๆ แรงดันน้ำยาตกแน่ๆ ทางที่ดีบอกช่างที่มาล้างแอร์ทุกครั้งว่า ห้ามวัดน้ำยาแอร์ ห้ามเปิดจุดปิดรูวัดน้ำยาเด็ดขาด เพราะเดี๋ยวมีแอบปล่อยน้ำยาอีก ที่ต้องห้ามเพราะอาจโดนแอบปล่อยน้ำยา จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตามแต่
ในบางที่คนที่ไม่รู้ ก็ไปเรียกช่างแอร์ประเภทที่ติดสติ๊กเกอร์เกลื่อนตามหมู่บ้านว่า ล้างแอร์ครั้งละ 300 บาท ปรากฏว่าพอมาแล้วล้างแบบลวกๆ คอยล์ร้อนก็ไม่ล้าง จ้องจะวัดน้ำยาท่าเดียว พอวัดแล้วก็บอกว่าขาด ต้องเติม ปอนด์ละ 30 บาท พอเราบอกไม่เติม ได้เรื่องเลย คืนนั้นแอร์ไม่เย็น คิดดูสิว่าบางคนเคยแอร์ไม่ต้องเติมน้ำยามา 12 ปี พอช่างมาครั้งเดียวน้ำยาหายเกือบหมด พอโทรไปถามก็บอกว่าแอร์รั่วมั้ง ค่าซ่อม 1800 บาท คือจะหาเรื่องเอาค่าซ่อมให้ได้ สุดท้ายลองเติมน้ำยาเอง เติมเสร็จเย็นเหมือนเดิม ค่าน้ำยาไม่ถึง 100 บาท
แอร์ทำงานโดยปกติ จะวัดแรงดันน้ำยาได้แถวๆ 68-70 ปอนด์ และแอร์เป็นระบบปิด หมายถึงน้ำยามันจะไม่รั่วไปไหน ถ้าช่างไม่แอบไปปล่อยตอนวัดน้ำยา มีแอร์บางบ้านอายุ 12 ปีไม่เคยต้องเติมน้ำยา ไม่เคยวัดน้ำยา มันก็เย็นสู้อากาศร้อนได้สบายๆ  
น้ำยาถูกๆ ที่ช่างแอร์ทั่วไปใช้ราคา กิโลละ 50-70 บาท เป็นน้ำยาแอร์คุณภาพต่ำ น้ำยาพวกนี้มีปัญหาคืออาจมีสารปลอมปนสูง มีความชื้นในน้ำยาสูง ความชื้นและสารปลอมปนจะทำให้แอร์ไม่เย็น หรือถ้าชื้นมากๆ ถึงกับทำให้วาล์วฉีดน้ำยาตัน เพราะความชื้นไปจับตัวเป็นน้ำแข็งในระบบแอร์เลย ถ้าวาล์วตัน ความเย็นก็ไม่เหลือ
มีวิธีดูน้ำยาแอร์ปลอม หรือดูว่าน้ำยามีความชื้นสูงไหมด้วยตัวเองมั๊ย??  มีแต่น่าจะยากครับ เพราะมันต้องใช้เครื่องตรวจสอบน้ำยาเครื่องละหลายแสนบาท ส่วนใหญ่ที่จะรู้ว่าโดนน้ำยาแอร์ปลอมคือ เติมไปจนเต็มแล้วแอร์ไม่เย็น หรือเย็นน้อยนั่นล่ะ โดนเข้าไปแล้วครับ
ตอนนี้มีน้ำยาแอร์ R22 จากจีนซึ่งมีราคาถูกทะลักเข้ามามาก ช่างแอร์ชอบเพราะราคาถูกดี กิโลละ 50 บาท แต่มีความชื้นและสารปลอมปนสูงมาก ถ้าขืนเติมเข้าไปปนกับน้ำยาแท้ๆ จากโรงงานล่ะก็ แอร์จะทำความเย็นได้ลดลง กินไฟมากขึ้น แอร์ดีๆ กลายเป็นแอร์ห่วยได้ง่ายๆ เลยครับ
น้ำยาแอร์ดีๆ ของแท้กิโลละ 150 บาท มีช่างจำนวนไม่มากนักใช้ ช่างพวกนี้ฝีมือดี รู้ขั้นตอนในการทำงาน ราคาการให้บริการสูง และหาตัวช่างแบบนี้ยากหน่อย ฝากไว้สำหรับคนที่จะล้างแอร์งวดหน้า อย่าเติมน้ำยาแอร์เด็ดขาด และเลือกใช้บริการจากช่างแอร์ที่เชื่อถือได้ด้วยนะครับ

ขอบคุณที่มา : yutc.blogspot.com